เครื่องหมายการค้า
เครื่องหมายการค้า หมายถึง เครื่องหมายที่ใช้กำกับสินค้าเพื่อแสดงว่าสินค้าที่ใช้เครื่องหมายนั้นเป็นของผู้ใด
แตกต่างกับสินค้าของผู้อื่นอย่างใด เครื่องหมายการค้าอาจจะเป็นภาพ คำ ตัวอักษร ลายมือชื่อหรือตัวเลข
อย่างใดอย่างหนึ่งหรือหลายอย่างรวมกันก็ได้
สิทธิในความเป็นเจ้าของเครื่องหมายการค้า แบ่งได้ 2 ส่วนดังนี้
1. เครื่องหมายการค้าที่ยังไม่ได้จดทะเบียน
• เจ้าของเครื่องหมายการค้ามีสิทธิที่จะใช้เครื่องหมายการค้าที่ยังไม่ได้จดทะเบียนนั้นได้
• มีสิทธิที่จะฟ้องคดีกับบุคคลใดซึ่งเอาสินค้าของตนไปลวงขายว่าเป็นสินค้าของเจ้าของเครื่องหมายการ
ค้านั้น
• แต่จะฟ้องคดีเพื่อป้องกันการละเมิดเครื่องหมายการค้าที่ไม่ได้จดทะเบียนหรือเรียกค่าเสียหายไม่ได้
เครื่องหมายการค้า หมายถึง เครื่องหมายที่ใช้กำกับสินค้าเพื่อแสดงว่าสินค้าที่ใช้เครื่องหมายนั้นเป็นของผู้ใด
แตกต่างกับสินค้าของผู้อื่นอย่างใด เครื่องหมายการค้าอาจจะเป็นภาพ คำ ตัวอักษร ลายมือชื่อหรือตัวเลข
อย่างใดอย่างหนึ่งหรือหลายอย่างรวมกันก็ได้
ประเภทของเครื่องหมายการค้า แบ่งออกเป็น 4 ประเภท คือ
• เครื่องหมายการค้า เครื่องหมายที่ใช้กำกับสินค้า เพื่อให้ผู้ซื้อสินค้าหรือคนทั่วไปแยกแยะได้ว่าสินค้านั้น
แตกต่างกับสินค้าของผู้อื่น เช่น โค้ก แตกต่างจากเป๊ปซี่
• เครื่องหมายบริการ เป็นเครื่องหมายที่ใช้กับธุรกิจบริการ เพื่อแยกแยะว่าธุรกิจบริการนั้นแตกต่างจากธุรกิจ
บริการที่ใช้เครื่องหมายบริการของผู้อื่น เช่นเครื่องหมายบริการรูปดอกจำปีของสายการบินไทยแตกต่างกับ
สายการบินอื่น ๆ
• เครื่องหมายรับรอง เป็นเครื่องหมายที่เจ้าของเครื่องหมายใช้รับรองคุณภาพหรือบริการของผู้อื่นว่า
คุณภาพหรือลักษณะของสินค้าหรือบริการนั้นมีคุณภาพอย่างไร เช่น เครื่องหมายรับรองรูปชามเชลล์ชวนชิม
เครื่องหมายรับรองเปิปพิสดาร
• เครื่องหมายร่วม เป็นเครื่องหมายการค้าหรือบริการที่ใช้โดยบริษัทหรือรัฐวิสาหกิจในกลุ่มเดียวกันหรือโดย
สมาชิกของสมาคม สหกรณ์ เป็นต้น เช่น รูปช้างในรูปตะกร้าของเครือปูนซีเมนต์ไทย
• เครื่องหมายการค้า เครื่องหมายที่ใช้กำกับสินค้า เพื่อให้ผู้ซื้อสินค้าหรือคนทั่วไปแยกแยะได้ว่าสินค้านั้น
แตกต่างกับสินค้าของผู้อื่น เช่น โค้ก แตกต่างจากเป๊ปซี่
• เครื่องหมายบริการ เป็นเครื่องหมายที่ใช้กับธุรกิจบริการ เพื่อแยกแยะว่าธุรกิจบริการนั้นแตกต่างจากธุรกิจ
บริการที่ใช้เครื่องหมายบริการของผู้อื่น เช่นเครื่องหมายบริการรูปดอกจำปีของสายการบินไทยแตกต่างกับ
สายการบินอื่น ๆ
• เครื่องหมายรับรอง เป็นเครื่องหมายที่เจ้าของเครื่องหมายใช้รับรองคุณภาพหรือบริการของผู้อื่นว่า
คุณภาพหรือลักษณะของสินค้าหรือบริการนั้นมีคุณภาพอย่างไร เช่น เครื่องหมายรับรองรูปชามเชลล์ชวนชิม
เครื่องหมายรับรองเปิปพิสดาร
• เครื่องหมายร่วม เป็นเครื่องหมายการค้าหรือบริการที่ใช้โดยบริษัทหรือรัฐวิสาหกิจในกลุ่มเดียวกันหรือโดย
สมาชิกของสมาคม สหกรณ์ เป็นต้น เช่น รูปช้างในรูปตะกร้าของเครือปูนซีเมนต์ไทย
เครื่องหมายการค้าที่จดทะเบียนได้ต้องมีลักษณะดังนี้
1. มีลักษณะเป็นเครื่องหมาย เช่น อาจเป็นภาพ คำ ตัวอักษร ตัวเลข ลายมือชื่อ
2. มีลักษณะบ่งเฉพาะ ได้แก่ เครื่องหมายการคัาที่มีลักษณะที่ทำให้ผู้ซื้อสินค้าทราบและเข้าใจว่าสินค้าที่ใช้
เครื่องหมายการค้านั้นแตกต่างจากสินค้าเครื่องหมายการค้าของบุคคลอื่น มีลักษณะ 7 ลักษณะดังนี้
• ชื่อตัว ชื่อสกุล ต้องแสดงโดยลักษณะพิเศษและไม่เล็งถึงลักษณะหรือคุณสมบัติพิเศษของสินค้าโดยตรง
• คำหรือข้อความที่ไม่ได้เล็งถึงลักษณะหรือคุณสมบัติของสินค้าโดยตรง เช่น super clean
• ไม่เป็นชื่อทางภูมิศาสตร์ เช่น กทม . เกาะเสม็ด
• กลุ่มของสีที่แสดงโดยลักษณะพิเศษหรือตัวหนังสือ ตัวเลข หรือคำประดิษฐ์ขึ้น เช่น แถบสีเขียว ส้ม แดง
ของร้านเซเว่นอีเลฟเว่น
• ลายมือชื่อของผู้จดทะเบียนขอจดได้ แต่ของบุคคลอื่นต้องขออนุญาตจากบุคคลนั้นหรือบุคคลที่ตายไป
แล้วต้องขออนุญาตจากบุพการี คู่สมรส ผู้สืบสันดาน ( ถ้ามี )
• ภาพของผู้ขอจดทะเบียนจดได้ แต่ถ้าเป็นภาพของบุคคลอื่นต้องขออนุญาตจากบุคคลนั้นหรือบุคคลที่ตาย
ไปแล้วต้องขออนุญาตจากบุพการี คู่สมรส ผู้สืบสันดาน ( ถ้ามี )
• ภาพที่ประดิษฐ์ขึ้น คือ ภาพที่คิดขึ้น ทำ แต่ง สร้าง จินตนาการ ดัดแปลงขึ้นและไม่เป็นภาพบรรยายสินค้า
เช่น ภาพมิคกี้เม้าส์
3. ไม่มีลักษณะต้องห้ามตามกฎหมาย ได้แก่
• ตราแผ่นดิน พระราชลัญจกร
• ธงชาติของประเทศไทย
• พระปรมาภิไธย
• พระบรมฉายาลักษณ์
• ชื่อ คำ ข้อความหรือเครื่องหมายใดอันแสดงถึงพระมหากษัตริย์ หรือพระราชวงศ์
• ธงชาติหรือเครื่องหมายประจำชาติของรัฐต่างประเทศ
• เครื่องหมายราชการ เครื่องหมายกาชาด นามกาชาด หรือกาเจนีวา
• เครื่องหมายที่เหมือนหรือคล้ายกับเหรียญ ใบสำคัญ หนังสือรับรอง หรือเครื่องหมายอื่นใดอันได้รับเป็น
รางวัลในการแสดงหรือประกวดสินค้าที่รัฐบาลไทย ส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ
• เครื่องหมายที่ขัดต่อความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชนหรือรัฐประศาสนโยบาย
•เครื่องหมายที่เหมือนกับเครื่องหมายที่มีชื่อเสียงแพร่หลายทั่วไป ซึ่งอาจทำให้
ประชาชนสับสน
• สิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ที่ได้รับความคุ้มครองตามกฎหมายว่าด้วยการนั้น
• เครื่องหมายอื่นที่รัฐมนตรีประกาศกำหนด
4. ไม่เหมือนหรือคล้ายกับเครื่องหมายการค้าที่จดทะเบียนไว้แล้ว จะต้องไม่มีลักษณะเป็น คำ ๆ เดียวกันหรือ
เป็นรูป ๆ เดียวกัน และจะต้องไม่คล้ายกับเครื่องหมายการค้าของบุคคลอื่น แต่ถ้าคล้ายกันนี้สาธารณชนผู้ซื้อ
สามารถแยกแยะความแตกต่างกันได้ เครื่องหมายการาค้านั้นก็อาจรับจดทะเบียนได้ แต่ถ้าหากคล้ายกันจน
ทำให้สาธารณชนผู้ซื้อสับสนหลงผิดในความเป็นเจ้าของสินค้า หรือแหล่งกำเนิดของสินค้าแล้วเครื่องหมาย
การค้านั้นก็ไม่อาจรับจดทะเบียนได้
1. มีลักษณะเป็นเครื่องหมาย เช่น อาจเป็นภาพ คำ ตัวอักษร ตัวเลข ลายมือชื่อ
2. มีลักษณะบ่งเฉพาะ ได้แก่ เครื่องหมายการคัาที่มีลักษณะที่ทำให้ผู้ซื้อสินค้าทราบและเข้าใจว่าสินค้าที่ใช้
เครื่องหมายการค้านั้นแตกต่างจากสินค้าเครื่องหมายการค้าของบุคคลอื่น มีลักษณะ 7 ลักษณะดังนี้
• ชื่อตัว ชื่อสกุล ต้องแสดงโดยลักษณะพิเศษและไม่เล็งถึงลักษณะหรือคุณสมบัติพิเศษของสินค้าโดยตรง
• คำหรือข้อความที่ไม่ได้เล็งถึงลักษณะหรือคุณสมบัติของสินค้าโดยตรง เช่น super clean
• ไม่เป็นชื่อทางภูมิศาสตร์ เช่น กทม . เกาะเสม็ด
• กลุ่มของสีที่แสดงโดยลักษณะพิเศษหรือตัวหนังสือ ตัวเลข หรือคำประดิษฐ์ขึ้น เช่น แถบสีเขียว ส้ม แดง
ของร้านเซเว่นอีเลฟเว่น
• ลายมือชื่อของผู้จดทะเบียนขอจดได้ แต่ของบุคคลอื่นต้องขออนุญาตจากบุคคลนั้นหรือบุคคลที่ตายไป
แล้วต้องขออนุญาตจากบุพการี คู่สมรส ผู้สืบสันดาน ( ถ้ามี )
• ภาพของผู้ขอจดทะเบียนจดได้ แต่ถ้าเป็นภาพของบุคคลอื่นต้องขออนุญาตจากบุคคลนั้นหรือบุคคลที่ตาย
ไปแล้วต้องขออนุญาตจากบุพการี คู่สมรส ผู้สืบสันดาน ( ถ้ามี )
• ภาพที่ประดิษฐ์ขึ้น คือ ภาพที่คิดขึ้น ทำ แต่ง สร้าง จินตนาการ ดัดแปลงขึ้นและไม่เป็นภาพบรรยายสินค้า
เช่น ภาพมิคกี้เม้าส์
3. ไม่มีลักษณะต้องห้ามตามกฎหมาย ได้แก่
• ตราแผ่นดิน พระราชลัญจกร
• ธงชาติของประเทศไทย
• พระปรมาภิไธย
• พระบรมฉายาลักษณ์
• ชื่อ คำ ข้อความหรือเครื่องหมายใดอันแสดงถึงพระมหากษัตริย์ หรือพระราชวงศ์
• ธงชาติหรือเครื่องหมายประจำชาติของรัฐต่างประเทศ
• เครื่องหมายราชการ เครื่องหมายกาชาด นามกาชาด หรือกาเจนีวา
• เครื่องหมายที่เหมือนหรือคล้ายกับเหรียญ ใบสำคัญ หนังสือรับรอง หรือเครื่องหมายอื่นใดอันได้รับเป็น
รางวัลในการแสดงหรือประกวดสินค้าที่รัฐบาลไทย ส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ
• เครื่องหมายที่ขัดต่อความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชนหรือรัฐประศาสนโยบาย
•เครื่องหมายที่เหมือนกับเครื่องหมายที่มีชื่อเสียงแพร่หลายทั่วไป ซึ่งอาจทำให้
ประชาชนสับสน
• สิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ที่ได้รับความคุ้มครองตามกฎหมายว่าด้วยการนั้น
• เครื่องหมายอื่นที่รัฐมนตรีประกาศกำหนด
4. ไม่เหมือนหรือคล้ายกับเครื่องหมายการค้าที่จดทะเบียนไว้แล้ว จะต้องไม่มีลักษณะเป็น คำ ๆ เดียวกันหรือ
เป็นรูป ๆ เดียวกัน และจะต้องไม่คล้ายกับเครื่องหมายการค้าของบุคคลอื่น แต่ถ้าคล้ายกันนี้สาธารณชนผู้ซื้อ
สามารถแยกแยะความแตกต่างกันได้ เครื่องหมายการาค้านั้นก็อาจรับจดทะเบียนได้ แต่ถ้าหากคล้ายกันจน
ทำให้สาธารณชนผู้ซื้อสับสนหลงผิดในความเป็นเจ้าของสินค้า หรือแหล่งกำเนิดของสินค้าแล้วเครื่องหมาย
การค้านั้นก็ไม่อาจรับจดทะเบียนได้
บทบาทของเครื่องหมายการค้าในเชิงพาณิชย์
1. เป็นสื่อกลางในการซื้อขายสินค้า
• เป็นสัญลักษณ์แทนตัวผู้ผลิตสินค้า
• บอกแหล่งที่มาของสินค้า
• แสดงคุณภาพของสินค้า
ผู้ซื้อสินค้าสามารถเลือกซื้อสินค้าโดยจดจำเครื่องหมายการค้าที่ใช้กับสินค้านั้น ๆ ได้
2. รักษาสิทธิประโยชน์ของเจ้าของเครื่องหมายการค้า เจ้าของการค้าย่อมได้รับความคุ้มครองตามกฎหมาย
• สิทธิแต่เพียงผู้เดียวในการใช้เครื่องหมายการค้ากับสินค้าของตน
• สิทธิที่จะโอนหรืออนุญาตให้ผู้อื่นใช้เครื่องหมายการค้าของตนได้
• สิทธิที่จะเรียกร้องค่าทดแทนทางแพ่ง
• สิทธิฟ้องร้องดำเนินคดีอาญา
3. คุ้มครองผู้บริโภคสินค้า เครื่องหมายการค้าแตกต่างกันย่อมเป็นประโยชน์ต่อผู้บริโภคดังนี้
• ผู้บริโภคซื้อสินค้าได้ถูกต้องไม่สับสนหลงผิด
• เพิ่มโอกาสในการเลือกซื้อสินค้าในการบริโภค
4. โฆษณาสินค้า การโฆษณาสินค้าเป็นประโยชน์ต่อผู้บริโภค ดังนี้
ผู้บริโภคสามารถจดจำสินค้าจากเครื่องหมายการค้าที่กำกับอยู่กับสินค้าได้
1. เป็นสื่อกลางในการซื้อขายสินค้า
• เป็นสัญลักษณ์แทนตัวผู้ผลิตสินค้า
• บอกแหล่งที่มาของสินค้า
• แสดงคุณภาพของสินค้า
ผู้ซื้อสินค้าสามารถเลือกซื้อสินค้าโดยจดจำเครื่องหมายการค้าที่ใช้กับสินค้านั้น ๆ ได้
2. รักษาสิทธิประโยชน์ของเจ้าของเครื่องหมายการค้า เจ้าของการค้าย่อมได้รับความคุ้มครองตามกฎหมาย
• สิทธิแต่เพียงผู้เดียวในการใช้เครื่องหมายการค้ากับสินค้าของตน
• สิทธิที่จะโอนหรืออนุญาตให้ผู้อื่นใช้เครื่องหมายการค้าของตนได้
• สิทธิที่จะเรียกร้องค่าทดแทนทางแพ่ง
• สิทธิฟ้องร้องดำเนินคดีอาญา
3. คุ้มครองผู้บริโภคสินค้า เครื่องหมายการค้าแตกต่างกันย่อมเป็นประโยชน์ต่อผู้บริโภคดังนี้
• ผู้บริโภคซื้อสินค้าได้ถูกต้องไม่สับสนหลงผิด
• เพิ่มโอกาสในการเลือกซื้อสินค้าในการบริโภค
4. โฆษณาสินค้า การโฆษณาสินค้าเป็นประโยชน์ต่อผู้บริโภค ดังนี้
ผู้บริโภคสามารถจดจำสินค้าจากเครื่องหมายการค้าที่กำกับอยู่กับสินค้าได้
หลักเกณฑ์การพิจารณาความเหมือนหรือคล้ายกัน
1. พิจารณาเสียงและสำเนียงเรียกขานเครื่องหมายการค้า
2. พิจารณาการวางรูปลักษณะของคำ ของตัวอักษร จำนวนตัวอักษรหรือการประดิษฐ์ตัวอักษร
3. พิจารณาจากความเหมือนหรือคล้ายในรูปเครื่องหมายการค้า
4. พิจารณาจากลักษณะการวางรูปรอยประดิษฐ์
5. พิจารณาจากสินค้าที่ใช้เครื่องหมายการค้านั้น ๆ
6. พิจารณาจากการใช้เครื่องหมายการค้ากับตัวสินค้า
7. พิจารณาจากเจตนาของผู้ยื่นขอจดทะเบียน
1. พิจารณาเสียงและสำเนียงเรียกขานเครื่องหมายการค้า
2. พิจารณาการวางรูปลักษณะของคำ ของตัวอักษร จำนวนตัวอักษรหรือการประดิษฐ์ตัวอักษร
3. พิจารณาจากความเหมือนหรือคล้ายในรูปเครื่องหมายการค้า
4. พิจารณาจากลักษณะการวางรูปรอยประดิษฐ์
5. พิจารณาจากสินค้าที่ใช้เครื่องหมายการค้านั้น ๆ
6. พิจารณาจากการใช้เครื่องหมายการค้ากับตัวสินค้า
7. พิจารณาจากเจตนาของผู้ยื่นขอจดทะเบียน
สิทธิในความเป็นเจ้าของเครื่องหมายการค้า แบ่งได้ 2 ส่วนดังนี้
1. เครื่องหมายการค้าที่ยังไม่ได้จดทะเบียน
• เจ้าของเครื่องหมายการค้ามีสิทธิที่จะใช้เครื่องหมายการค้าที่ยังไม่ได้จดทะเบียนนั้นได้
• มีสิทธิที่จะฟ้องคดีกับบุคคลใดซึ่งเอาสินค้าของตนไปลวงขายว่าเป็นสินค้าของเจ้าของเครื่องหมายการ
ค้านั้น
• แต่จะฟ้องคดีเพื่อป้องกันการละเมิดเครื่องหมายการค้าที่ไม่ได้จดทะเบียนหรือเรียกค่าเสียหายไม่ได้
2. เครื่องหมายการค้าที่จดทะเบียนแล้ว
• เจ้าของเครื่องหมายการค้ามีสิทธิแต่เพียงผู้เดียวที่จะใช้เครื่องหมายการค้าสำหรับสินค้าที่จดทะเบียนแล้ว
• ในกรณีที่มีผู้อื่นละเมิดสิทธิในเครื่องหมายการค้า เจ้าของเครื่องหมายการค้าที่จดทะเบียนไว้มีสิทธิที่จะ
ฟ้องร้องและเรียกค่าสินไหมทดแทนได้
• มีสิทธิที่ฟ้องคดีอาญาสำหรับผู้กระทำผิดตาม พรบ . เครื่องหมายการค้าได้
• มีสิทธิในการทำสัญญาอนุญาตให้ผู้อื่นใช้เครื่องหมายการค้าของตน
• มีสิทธิในการใช้สีเครื่องหมายการค้าได้ทุกสี ในกรณีที่จดทะเบียนไว้โดยไม่จำกัดสี
• เจ้าของเครื่องหมายการค้ามีสิทธิแต่เพียงผู้เดียวที่จะใช้เครื่องหมายการค้าสำหรับสินค้าที่จดทะเบียนแล้ว
• ในกรณีที่มีผู้อื่นละเมิดสิทธิในเครื่องหมายการค้า เจ้าของเครื่องหมายการค้าที่จดทะเบียนไว้มีสิทธิที่จะ
ฟ้องร้องและเรียกค่าสินไหมทดแทนได้
• มีสิทธิที่ฟ้องคดีอาญาสำหรับผู้กระทำผิดตาม พรบ . เครื่องหมายการค้าได้
• มีสิทธิในการทำสัญญาอนุญาตให้ผู้อื่นใช้เครื่องหมายการค้าของตน
• มีสิทธิในการใช้สีเครื่องหมายการค้าได้ทุกสี ในกรณีที่จดทะเบียนไว้โดยไม่จำกัดสี
เครื่องหมายการค้ามีประโยชน์อย่างไร
1. ด้านเจ้าของเครื่องหมายการค้า ทำให้ผู้บริโภคสามารถจดจำหรือเรียกขานสินค้าของเจ้าของเครื่อง
หมายการค้านั้น ซึ่งจะทำให้ผู้บริโภคสามารถแยกแยะเพื่อเลือกซื้อสินค้าของเจ้าของเครื่องหมายการค้านั้น
ได้ และ ไม่สับสนกับสินค้าที่ใช้เครื่องหมายการค้าอื่น ๆ
2. ด้านผู้บริโภค ทำให้ผู้บริโภคสามารถแยกแยะสินค้าที่ใช้เครื่องหมายการค้านั้นจากสินค้าที่ใช
้เครื่องหมายการค้าอื่นและเครื่องหมายการค้าจะทำให้ผู้บริโภคสามารถเลือกซื้อสินค้าที่มีคุณภาพตามต้อง
การรวมทั้งทราบถึงตัวเจ้าของเครื่องหมายการค้าด้วย
อายุการคุ้มครอง เครื่องหมายการค้าที่จดทะเบียนแล้วมีอายุความคุ้มครอง 10 ปี เมื่อครบกำหนดสามารถ
ที่จะต่ออายุได้เป็นคราว ๆ ละ 10 ปี ผลกระทบของการละเมิดเครื่องหมายการค้าต่อเศรษฐกิจของประเทศ
1. ทำให้เกิดการฟ้องร้องดำเนินคดีเพื่อโต้แย้งสิทธิในความเป็นเจ้าของเครื่องหมายการค้าระหว่างกันขึ้น
2. การละเมิดเครื่องหมายการค้าของต่างประเทศเกิดผลเสียหายต่อระบบเศรษฐกิจของประเทศ
เช่น อเมริกาซึ่งเป็นตลาดส่งออกที่สำคัญของไทย ตอบโต้ด้วยการตัด GSP หลายรายการ ซึ่งส่งผลกระทบต่อธุรกิจการส่งออกของไทยเป็นอย่างมาก
3. ต่างประเทศที่ละเมิดเครื่องหมายการค้าของไทยมีผลทำให้ผู้ส่งออกของไทยไม่สามารถส่งสินค้าไปยัง
ต่างประเทศนั้น ๆ ได้ ทำให้ต้องสูญเสียรายได้และการขยายตลาดส่งออก
1. ด้านเจ้าของเครื่องหมายการค้า ทำให้ผู้บริโภคสามารถจดจำหรือเรียกขานสินค้าของเจ้าของเครื่อง
หมายการค้านั้น ซึ่งจะทำให้ผู้บริโภคสามารถแยกแยะเพื่อเลือกซื้อสินค้าของเจ้าของเครื่องหมายการค้านั้น
ได้ และ ไม่สับสนกับสินค้าที่ใช้เครื่องหมายการค้าอื่น ๆ
2. ด้านผู้บริโภค ทำให้ผู้บริโภคสามารถแยกแยะสินค้าที่ใช้เครื่องหมายการค้านั้นจากสินค้าที่ใช
้เครื่องหมายการค้าอื่นและเครื่องหมายการค้าจะทำให้ผู้บริโภคสามารถเลือกซื้อสินค้าที่มีคุณภาพตามต้อง
การรวมทั้งทราบถึงตัวเจ้าของเครื่องหมายการค้าด้วย
อายุการคุ้มครอง เครื่องหมายการค้าที่จดทะเบียนแล้วมีอายุความคุ้มครอง 10 ปี เมื่อครบกำหนดสามารถ
ที่จะต่ออายุได้เป็นคราว ๆ ละ 10 ปี ผลกระทบของการละเมิดเครื่องหมายการค้าต่อเศรษฐกิจของประเทศ
1. ทำให้เกิดการฟ้องร้องดำเนินคดีเพื่อโต้แย้งสิทธิในความเป็นเจ้าของเครื่องหมายการค้าระหว่างกันขึ้น
2. การละเมิดเครื่องหมายการค้าของต่างประเทศเกิดผลเสียหายต่อระบบเศรษฐกิจของประเทศ
เช่น อเมริกาซึ่งเป็นตลาดส่งออกที่สำคัญของไทย ตอบโต้ด้วยการตัด GSP หลายรายการ ซึ่งส่งผลกระทบต่อธุรกิจการส่งออกของไทยเป็นอย่างมาก
3. ต่างประเทศที่ละเมิดเครื่องหมายการค้าของไทยมีผลทำให้ผู้ส่งออกของไทยไม่สามารถส่งสินค้าไปยัง
ต่างประเทศนั้น ๆ ได้ ทำให้ต้องสูญเสียรายได้และการขยายตลาดส่งออก
0 comments:
Post a Comment